Home |  S9 |  Lazada Shop |  ติดต่อเรา

----------------------------------

มาตรวัดแรงดันเทอร์โบ สำหรับรถเทอร์โบ

(TURBO)

มาตรวัดแรงดันเทอร์โบ หรือ วัดบูสต์ เป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญสำหรับรถที่ติดตั้งเทอร์โบ เนื่องจากจะแสดงค่าการทำงานของแรงดันอากาศที่เข้ามายังเครื่องยนต์อย่างละเอียด ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบสถานการณ์การทำงานของเทอร์โบได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังช่วยเตือนล่วงหน้าในกรณีที่อาจจะก่อให้เกิดการเสียหายได้ อีกทั้งยังสามารถช่วยวิคารห์การทำงานของเทอร์โบด้วยอาทิเช่น หากเข็มบนมาตรวัดเดินช้ามาก เป็นการแสดงให้เห็นว่า เทอร์โบมีใช้นั้นอาจจะมีขนาดที่ใหญ่จนเกินไป ส่งผลให้ไอเสียที่ไปปั่นใบเทอร์โบมีปริมาณไม่พอ หรือหากมาตรวัดชี้ว่ามีแรงบูสต์สูงเกินไปจากที่มีการตั้งค่าเอาไว้ ก็อาจจะสรุปได้ว่าเกิดปัญหาขึ้นที่สปริงวาล์วของเวสต์เกต ที่เป็นตัวควบคุมแรงดันบูสต์ของเทอร์โบเป็นต้น

มาตรวัดแรงดันไอดี สำหรับรถ NA

(INTAKE MANIFOLD PRESSURE)

มาตรวัดแรงดันเทอร์โบ (วัดบูสต์) เป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญสำหรับรถที่ติดตั้งเทอร์โบทุกคัน เนื่องจากมีหน้าที่แสดงค่าแรงดันอากาศที่เข้ามายังเครื่องยนต์อย่างละเอียด ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบสถานการณ์การทำงานของเทอร์โบได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังช่วยเตือนล่วงหน้าในกรณีที่อาจจะก่อให้เกิดการเสียหายอย่างร้ายแรงแก่เครื่องยนต์ได้ เช่นอาการบูสต์ไหล (Overshoot) อีกทั้งยังสามารถช่วยวิเคราะห์การทำงานของเทอร์โบด้วยเพื่อการปรับแต่งให้มีความสมบูรณ์ลงตัวมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น หากเข็มบนมาตรวัดเดินช้ามาก เป็นการชี้ให้เห็นว่าขนาดของเทอร์โบที่ใช้นั้นอาจจะมีขนาดที่ใหญ่จนเกินไป (Turbo Lag) ส่งผลให้ไอเสียที่ไปปั่นใบเทอร์โบมีปริมาณไม่เพียงพอเป็นต้น

มาตรวัดแรงดันไอดี ทำงานเหมือนกับมาตรวัดแรงดันเทอร์โบ ใช้สำหรับรถที่ไม่มีเครื่องอัดอากาศ ซึ่งหน่วยวัดในมาตรวัดจะต่ำกว่าเพื่อให้สามารถบอกค่าได้ละเอียดและชัดเจนมากยิ่งขึ้น

*ตำแหน่งติดตั้งที่ทาง Defi แนะนำคืออยู่ระหว่าง Surge Tank และ Fuel Pressure Regulator

มาตรวัดแรงดันน้ำมันเครื่อง

(OIL PRESSURE)

มาตรวัดแรงดันน้ำมันเครื่อง มีหน้าที่วัดแรงดันน้ำมันเครื่องที่อยู่ในเครื่องยนต์ เพื่อช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ในบางกรณีอาทิเช่น ค่าแรงดันที่ต่ำจนเกินไป (เช่นแรงดันที่ต่ำกว่า 200 kPa ที่รอบเครื่อง 4,000 RPM) ทังนี้มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจส่งผลให้แรงดันน้ำมันเครื่องตกลงได้ เช่นความร้อนในเครื่องยนต์ที่อาจมีผลทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมคุณภาพ หรือในกรณีการขับเข้าโค้งอย่างรุนแรงและฉับพลันในสนามแข่งก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาได้เช่นกัน อีกทั้งน้ำมันเครื่องแต่ละแบบก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันด้วย เพราะฉะนั้นการใช้มาตรวัดแรงดันน้ำมันเครื่องของเดฟีก็จะช่วยได้มากในการป้องกันปัญหาก่อนที่จะเกิดกับเครื่องยนต์ของคุณ

*ในการติดตั้งเซ็นเซอร์ ควรติดตั้งที่ตำแหน่งหลังจากออกจากปั้มน้ำมันเครื่อง เพื่อความแม่นยำในการวัดค่ามากขึ้น

มาตรวัดแรงดันเชื้อเพลิง

(FUEL PRESSURE)

มาตรวัดแรงดันเชื้อเพลิง มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของระบบจ่ายเชื้อเพลิงว่าสัมพันธ์กับการใช้งานจริงหรือไม่ และยังสามารถช่วยเช็คการทำงานของปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงและหัวฉีดว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ เพื่อที่เราจะสามารถใช้งานเครื่องยนต์ได้เต็มประสิทธิภาพและป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นอีกด้วย โดยมาตรวัดประเภทนี้สามารถใช้งานได้กับรถยนต์ที่มีระบบอัดอากาศ และแบบ NA

มาตรวัดอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง

(OIL TEMPERATURE)

มาตรวัดอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง มีความสำคัญมากเช่นกัน เพราะถือว่ามีผลกระทบกับเครื่องยนต์โดยตรง หากว่าอุณหภูมิของน้ำมันเครื่องมีค่าสูงจนเกินไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ได้ ทั้งนี้อุณหภูมิของน้ำมันเครื่องจะขึ้นอยู่กับคุณภาพและเกรดของน้ำมันเครื่องที่ใช้ ซึ่งในตลาดน้ำมันเครื่องแยกเป็นหลายประเภท มีทั้งแบบทนความร้อนสูงเป็นพิเศษสำหรับการใช้งานบนสนามแข่งและแบบใช้งานปกติ ทั้งนี้ควรรักษาอุณหภูมิของน้ำมันเครื่องให้อยู่ในช่วง ระหว่าง 90-105 องศาเซลเซียสในการใช้งานปกติ หรือไม่เกิน 130 องศาเซลเซียสในระหว่างทำการแข่งขันถ้าหากสูงกว่านี้ ควรดับเครื่องเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการเสียหายของเครื่องยนต์หรือติดตั้งออยล์คูลเลอร์เพื่มเติมเพื่อรักษาอุณหภูมิน้ำมันเครื่องให้อยู่ในช่วงปกติ

มาตรวัดอุณหภูมิหม้อน้ำ

(WATER TEMPERATURE)

มาตรวัดอุณหภูมิหม้อน้ำ มีหน้าที่วัดอุณหภูมิของน้ำยาหล่อเย็นในหม้อน้ำ โดยเราควรสังเกตุว่าอุณหภูมิควรอยู่ระหว่าง 40-100 องศาเซลเซียสซึ่งหากอุณหภูมิอยู่ต่ำกว่านี้ ควรใช้ความระมัดระวังในการใช้รอบเครื่องสูง แต่หากอุณหภูมิขึ้นไปสูงกว่า 100 องศาเซลเซียสก็ควรดับเครื่องยนต์เพื่อให้อุณหภูมิลดลงก่อน

*การติดตั้งหม้อน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นจะช่วยลดอุณหภูมิหม้อน้ำได้

*ตำแหน่งในการติดตั้งเซ็นเซอร์ จะมีผลอย่างมากต่อค่าที่วัดได้ (5-10 องศาเซลเซียส) ตำแหน่งที่แนะนำคือให้ห่างจากหม้อน้ำและควรติดตั้งกับตัว Thermostat

*ค่าที่วัดได้จากมาตรวัดของเดฟีนั้นอาจให้ผลที่แตกต่างจากมาตรวัดที่ติดตั้งจากโรงงานได้เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์บางรายอาจจงใจปรับตั้งให้ค่ามาตรวัดอุณหภูมิมีความไวน้อยกว่าความเป็นจริงเพื่อไม่ให้ผู้ใช้รถตกใจ

มาตรวัดอุณหภูมิไอเสีย

(EXHUAST TEMPERATURE)

มาตรวัดอุณหภูมิไอเสีย มีหน้าที่วัดอุณหภูมิของอากาศที่ออกจากเครื่องยนต์ (ไอเสีย) ซึ่งจะช่วยบอกความสมบูรณ์ของส่วนผสมระหว่างน้ำมันกับอากาศ (Air-Fuel Meter) ได้เพื่อให้สามารถปรับแต่งค่าให้ได้ประสิทธิภาพการเผาไหม้สูงสุด และช่วยให้สามารถตรวจป้องกันอาการ “KNOCK” ของเครื่องยนต์ได้ อีกทั้งเรายังสามารถใช้ค่าที่วัดได้เพื่อกำหนดค่าความร้อนของหัวเทียนได้อีกด้วยเช่นหากอุณหภูมิที่วัดได้อยู่ระหว่าง 600 – 700 องศาเซลเซียสควรใช้หัวเทียนเบอร์ 7 แต่หากอุณหภูมิที่วัดได้อยู่ระหว่าง 750 – 800 องศาเซลเซียสควรเพิ่มเบอร์หัวเทียนเป็นเบอร์ 8 เป็นต้น

*ตำแหน่งในการติดตั้งเซ็นเซอร์ในรถยนต์ที่มีเทอร์โบควรจะอยู่ที่ท่อไอเสีย (Exhaust Manifolds) ในจุดที่เยื้องใกล้ตัวเครื่องมากกว่าใกล้เทอร์โบ

*ตำแหน่งในการติดตั้งเซ็นเซอร์ในรถยนต์แบบ NA ควรจะอยู่ที่จุดรวมของท่อไอเสีย (Exhaust Manifolds

มาตรวัดรอบเครื่องยนต์

(TACHOMETER)

มาตรวัดรอบเครื่องยนต์ มีหน้าที่ในการวัดรอบการทำงานของเครื่องยนต์ในขณะนั้นเป็นหน่วย รอบต่อนาที (RPM – Revolution per Minute) ซึ่งในรถยนต์ส่วนมากมีติดตั้งมาให้อยู่แล้ว แต่ข้อแตกต่างของมาตรวัดของเดฟีคือ ความแม่นยำและความไวในการบอกค่าที่จะมีมากกว่าแบบที่ติดตั้งมากับรถยนต์มาก ซึ่งมีความสำคัญโดยเฉพาะกับรถยนต์ที่ผ่านการตกแต่งมา หรือที่ใช้ในการแข่งขันซึ่งค่าความผิดพลาดหรือล่าช้าเพียงเล็กน้อยนั้นอาจมีผลถึงการแพ้ชนะเลยทีเดียว อีกทั้งมาตรวัดของเดฟีนั้นมีค่าวัดสูงสุดที่สูงกว่ามาตรวัดแบบติดรถ และยังสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมเช่นไฟเตือนซิฟไลท์ได้อีกด้วย